มองมุมกลับ พี่เมษ์ว่าดีซะอีก เรียนคนละสายกัน ถ้าเพื่อนเราหรือเราไม่เข้าใจวิชาไหน ก็ยังเอามาปรึกษากันได้ด้วยนะ พี่เมษ์หวังว่า วิธีตัดสินใจที่พี่เมษ์เอามาฝากกันวันนี้จะช่วยน้องๆ ให้เลือกสายหรือแผนการเรียนได้ง่ายและก็ถูกใจ ถูกต้อง ประสบความสำเร็จกันอย่างที่หวังนะคะ แต่ยังไงพี่เมษ์ก็อยากให้น้องๆ เลือกโดยใช้ตัวเองเป็นหลัก เพราะความรู้ในช่วง ม. ปลาย อาจจะเป็นความรู้ที่กำหนดชะตาชีวิตน้องไปตลอดก็ได้ อ่อ,, น้องๆอย่าลืมศึกษาข้อมูลแต่ละสายด้วยหละ ว่า แต่ละสายมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพราะจะทำให้น้องๆ เลือกเรียนได้ดีขึ้น ถ้าสนใจเรื่องสายการเรียน พี่เมษ์แอบแนะนำให้น้องๆ ตามไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนน้องๆ ที่ตัดสินใจแล้ว หรือพี่ๆ ที่เรียนในสายต่างๆ อย่าลืมแวะมาเล่าประสบการณ์ให้พี่เมษ์และชาว Dek-D ฟังกันนะคะว่ามีวิธีเลือกสายการเรียนยังไงกันบ้าง
ชอบเรียนวิชาอะไรบ้าง? ถ้ายังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามแรกก็ลองดูคำถามที่ 2 นะ ว่าชอบวิชาอะไร ถ้าหากว่าชอบ วิทย์-คณิต ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ชอบการคำนวณ ชอบการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตเลยค่ะ เพราะคนที่มีความชอบทางด้านนี้นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกเรียนต่อในคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทย์-คณิต อีกทั้งการได้เรียนในสิ่งที่ชอบนั้นก็ไม่รู้สึกว่าหนักและเหนื่อยอีกด้วย ส่วนน้องๆ ที่ชอบด้านภาษา ไม่ชอบคำนวณ ไม่ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้วล่ะก็ สายศิลป์ น่าจะเป็นคำตอบสำหรับน้องๆ เพราะเลือกเรียนสายวิทย์ไปนอกจากจะไม่มีความสุขแล้วยังอาจจะทำออกมาได้ไม่ดี ทำให้เพิ่มความเครียดอีกด้วย 3. ทำวิชาอะไรได้ดีที่สุด? ถ้า 2 คำถามแรกยังไม่ได้คำตอบลองถามตัวเองอีกคำถามนะ ว่าน้องสามารถทำวิชาอะไรได้ดี ถ้าหากว่าทำคะแนนวิชาวิทย์-คณิตได้ดีก็แสดงว่าน้องมีความสามารถทางด้านนี้ ดังนั้นก็อาจจะเลือกเรียนวิทย์-คณิต แต่ถ้าทำคะแนนวิชาด้านภาษาได้ดี ก็ควรจะเลือกเรียนสายศิลป์ 4. ถ้าไม่รู้จริงๆ จะทำยังไงดี? ถ้าหากว่าทั้ง 3 คำถามด้านบนไม่สามารถให้ข้อสรุปแก่น้องๆ ได้ เราขอแนะนำอย่างนี้ … ถ้าหากว่าน้องพอจะชอบวิทย์-คณิตอยู่บ้าง ทำวิทย์-คณิตได้ดีอยู่บ้าง และไม่ทุกข์มากที่จะต้องเรียนวิทย์-คณิตก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตไปก่อน เพราะแม้ว่าการเรียนวิทย์-คณิตนั้นจะหนักกว่าสายศิลป์ค่อนข้างมาก แต่โอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นหลากหลายกว่าสายศิลป์ ดังนั้นเมื่อถึง ม.
"จบ ม. 3/จะขึ้น ม. 3 แล้ว จะ ม. 4เข้าสายไหนดี? " เป็นคำถามที่ผุดขึ้นในความคิดของน้องๆ หลายคน ทั้งสับสน มึนงง ไม่รู้จะเลือกยังไง วันนี้ พี่เมษ์อาสามาแนะนำน้องๆ เรื่องการ เรียนต่อ ม. 4,,, เลือกสายยังไงดี? หลังจากที่พี่เมษ์นั่งอ่านกระทู้ในบอร์ดการศึกษา น้องๆ หลายคนเข้ามาปรึกษาเรื่องการเลือกแผนการเรียนกันเยอะเลยหละ มาดูตัวอย่างกันค่ะ เห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าการเลือกสายการเรียนสำคัญแค่ไหน งั้นเรามาดูวิธีการเลือกสายหรือแผนการเรียนดีกว่าค่ะ ว่าจะเลือกยังไงดี 1.
คำถามที่พี่มักเจอบ่อย ๆ เลย ก็คือ Q: เรียนต่อสายไหนดีที่สุด?
สายศิลป์-ภาษา: สายนี้บางโรงเรียนก็อาจจะมีแยกย่อย ๆ ไปอีก เช่น ศิลป์-อังกฤษ, ศิลป์-จีน, ศิลป์-เกาหลี, ศิลป์-ฝรั่งเศส ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าเขาเปิดสอนศิลป์ภาษาไหนบ้าง สายนี้จะเรียนหนักเรื่องภาษามาก ๆ ซึ่งถ้าใครชอบภาษา หรือมีพื้นฐานทางภาษาดีอยู่เเล้วก็ได้เปรียบหน่อย แต่ยังไงขึ้นมา ม. 4 น้อง ๆ ทุกคนต้องได้เรียนปรับพื้นฐานกันอยู่แล้ว ซึ่งน้องคนไหนที่พื้นฐานไม่แน่น ก็อาจจะต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยนะ ใครอยากเป็นล่าม นักเขียน นักการฑูต ก็เลือกสายนี้ได้เลย (ยังมีอาชีพอื่นที่เรียนสาขานี้ได้อีกนะ ลองหาข้อมูลดู พี่แค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคร่าว ๆ นะ) กศน. (การศึกษานอกระบบ): ไม่ใช่เรื่องแปลก หากน้องจะเลือกเรียน กศน. แทนที่จะเรียนต่อสายสามัญเหมือนคนอื่น ๆ สายนี้ถ้าน้องคนไหนต้องการที่จะมีเวลา ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย หรือต้องการที่จะค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร ก็สามารถเลือกเรียนสายนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดหรือน่าอายเลย ซึ่งถ้าเรียนจบ(เทียบเท่า ม. 6) น้องก็มีโอกาสเลือกเรียนได้ 2 ทาง คือ 1. เรียนสายอาชีพต่อไปเลย หรือ 2. เรียนมหาวิทยาลัยต่อ ซึ่งถ้าสายอาชีพก็จะไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ เพราะน้องเรียนมาตรงสาย แต่ถ้าน้องเบียวกลับมาเรียนต่อมหาวิทลัย ก็อาจจะยากหน่อยเพราะต้องพยายามมากกว่าคนอื่นนิดนึง ในเรื่องพื้นฐานหรืออะไรต่าง ๆ ถามว่ามีโอกาสไหม?
เลือกถนัด ถ้าข้อแรกผ่านไปแล้ว น้องหลายคนยังคิดต่อว่า "พี่ค่ะ หนูชอบนะ แต่หนูทำไม่ได้เลย T^T" พี่เมษ์ว่าปัจจัยที่ควรดูต่อมาคือ ความถนัด หรือค วามสามารถในวิชานั้นๆ เช่น น้องอาจจะชอบวิทยาศาสตร์มาก แต่สอบทุกครั้ง คะแนนออกมา เกือบตกตลอด แต่ในวิชาที่ไม่ได้ชอบมากอย่าง ภาษาอังกฤษกลับได้เกรดสี่ คะแนน 90+ทุกเทอม O_o อย่างนี้แนะนำว่า น้องๆ น่าเหมาะกับสายศิลป์-ภาษาอังกฤษ ส่วนความชอบในวิชาวิทยาศาสตร์ก็ไปเพิ่มความรู้วิชาที่ชอบเอานอกห้องเรียนเพื่อเพิ่มความรู้อาจจะเหมาะกว่า แถมถ้าเรียนในวิชาที่ถนัด ได้คะแนนดี แล้วยังมีความสามารถในวิชาอื่นๆ ด้วยเนี่ย มันสุดยอดเลยนะ! ที่พี่เมษ์แนะนำอย่างนี้เพราะต้องอย่าลืมว่า ระบบแอดมิชชั่นที่น้องจะต้องเจอตอน ม. 6 ต้องใช้เกรดเฉลี่ยคิดเป็นคะแนนด้วย ถ้าน้องๆ มีเกรดดี ก็แปลว่าคะแนนน้องจะมีเยอะขึ้น แล้วโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน คณะที่ต้องการ และนำไปสู่อาชีพที่ชอบจะไปไหนได้ค่ะ แต่ถ้าชอบ แต่ไม่ถนัด ขืนเข้าเรียนแล้วเกรดร่วง สอบตกแล้วตกอีก อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แล้วผลกระทบก็ตามมาอีกเพียบเนี่ย ต้องแย่แน่เลย >< 3.