ง่ายมาก อย่างเช่น ล้อขอบ 13 x 5. 5 หรือ 6. 5 ก็คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและความกว้างวัดเป็นหน่วย "นิ้วฟุต" สเป็คยางที่เหมาะสมจะเท่ากับ 175/70 R 13 หรือไม่ก็เป็น 185/70/R13 เป็นต้น แต่ถ้าต้องการเพิ่มขนาดล้อให้ใหญ่ขึ้นก็อาจจะลดซีรี่ส์ยางลงไป 10% คือ ถ้าเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อขึ้นมาอีก 1 นิ้ว ซีรี่ส์จะลดไป 10% ของความสูงของแก้มยาง แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เป็นรถวัยรุ่นชอบให้ดูเตี้ยนิด ๆ ก็อาจเปลี่ยนมาใช้ยางซีรี่ส์ต่ำ ๆ เช่น วงล้อขอบ 17 x 6. 5 ยางควรจะเป็น 205/50 ZR 17 เป็นต้น แต่อย่าลืมล่ะว่ายางแต่ละเส้นมันจะมีรหัสที่บอกค่าความเร็วที่ยางสามารถรับได้ อย่างเช่น SR, ซึ่งผู้ผลิตยางจะแจ้งไว้เพื่อให้ทราบว่ายางของเขาเหมาะสมกับการนำไปใช้ในรถประเภทไหน รถบ้านธรรมดาคงไม่ต้องถึงกับไปใช้ยางรหัส ZR ที่สามารถรับความเร็วได้ถึง 300 กม. /ชม. และแน่นอนว่ามันจะราคาแพงกว่ายางทั่ว ๆ ไปด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงก็คือ อายุการใช้งาน ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้รถของแต่ละท่านด้วย ยางส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 25, 000 – 30, 000 กม.
ศัพท์ควรรู้! ก่อนซื้อล้อแม็ก ล้อแม็ก ของแต่งยอดนิยมที่มีติดรถแทบทุกคัน สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจให้คุณก่อนซื้อ เป็นดีไซน์และสีสันที่สวยงามของล้อแม็ก แต่คำถามต่อมาที่คุณจะได้รับจากคนขายนั่นก็คือ อยากได้แม็กขอบเท่าไหร่? กว้างเท่าไหร่?
วิธีเลือกซื้อ "ล้อแม็ก" ให้เหมาะกับรถคุณ ก่อนจะเลือกซื้อ " ล้อแม็ก " แทบทุกคนต้องตั้งคำถามในใจว่า จะเปลี่ยนเป็น ล้อแม็ก ขนาดเท่าไรดี ยางต้องเป็นแบบไหน ลวดลาย สีสัน เข้ากับรถหรือไม่ ต้องดัดแปลงอะไรหรือเปล่า ในที่นี้ขอพูดถึงภาพรวมในการเลือกซื้อ " ล้อแม็ก " อย่างถูกวิธีโดยเน้นองค์ประกอบของล้อเดิมที่ให้มาเป็นหลัก เมื่อเปลี่ยนแล้วไม่ต้องมาช้ำใจทีหลัง วิธีเลือกเปลี่ยน ล้อแม็ก 1. ดูขนาดล้อเดิมที่ให้มา 14นิ้ว, 15นิ้ว, 16นิ้ว, 17นิ้ว หรือ 18นิ้ว 2. ใช้สูตรเพิ่มขนาด ล้อแม็ก +1นิ้ว +2นิ้ว +3นิ้ว +4นิ้ว (ไม่แนะนำให้เพิ่ม +1นิ้ว จะดูไม่ต่างจากของเดิม) 3. สำหรับรถเก๋ง ใช้ขอบล้อกว้าง 6 – 7. 5 นิ้ว ก็พอแล้ว ถ้าชอบแบบยางล้นซุ้มเยอะๆ ให้จัด 8 นิ้วขึ้นไป 4. ดูรู ล้อแม็ก (PCD) เป็นแบบไหน เช่น 4 รู, 5 รู, 6 รู ไม่ควรดัดแปลงจากของเดิม ส่วนค่า PCD และค่า OFFSET เป็นเรื่องทางเทคนิคไว้ค่อยไปถามที่ร้าน เค้าจะแนะนำเราได้ " ล้อแม็ก " แบบไหนเหมาะกับคุณ 1. ล้อแม็ก จาน (Disc Type) ถูกออกแบบเพื่อการแบกรับน้ำหนักเยอะมีความทนทานสูง 2. ล้อแม็ก ก้านใหญ่ (Spoke Type) มีความสวยขึ้นกว่าแบบ จาน แต่ยังแบกรับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับรถนั่งขนาดใหญ่ 3.
เจียร หรือพับขอบซุ้มล้อ เป็นวิธีแก้ไขในกรณีที่ล้อไม่ถ่างออกมามากเกินไป หรือเวลาวิ่งตรงไม่ติด แต่พอขึ้นเนิน เลี้ยว หรือบรรทุกหนักแล้วติด การพับซุ้มถือเป็นวิธีที่นิยมกันมาก แต่ต้องเป็นร้านที่มีฝีมือ เพราะถ้าสีเกิดเสียหายค่าทำสีจะแพงกว่าหลายเท่า แต่วิธีเจียรซุ้มเป็นวิธีที่ง่ายประหยัดกว่า แต่ข้อเสียคือ ซุ้มล้อจะไม่แข็งแรง ยืนพิงเบาๆก็อาจจะยุบได้ หรือถ้าไม่ป้องกันสนิม 2. ขยายซุ้มล้อ หรือ Wide Body การทำให้ซุ้มล้อกว้างขึ้น ถือเป็นวิธีที่ผู้ผลิตยังใช้กัน เป็นงานที่ต้องลงทุนทุบตัวถัง หรือตัดซุ้มล้อใหม่ให้กว้างขึ้น แล้วทำสี เป็นงานที่ลงทุนมาก แต่ก็ให้ความสวยงามมากขึ้น 3. โป่งล้อ หรือ Over Fender เป็นลักษณะโป่งพลาสติก หรือไฟเบอร์เย็บติดกับซุ้มล้อ เป็นวิธีที่นิยมกันมากในหมู่รถพวก 4X4 จนถึงรถระดับแข่งขัน Circuit 4. ซื้อล้อใหม่ (เอาใหม่เลย) ทำไมรถแข่งทางตรงถึงใช้ ล้อออฟลึกมากๆ พวกรถแข่งทางตรงพวกนี้มีแรงม้าสูง ยางที่ใช้ขนาด 335 – 355 นู่น ล้อก็ขนาด 10 นิ้ว – 12 นิ้ว หรือที่เรียกว่า Drag Slick ยางพวกนี้นับความกว้างที่หน้ายางกันเป็นนิ้ว เช่น 10. 5, 12.
ร. บ. รถจักรยานยนต์ ได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
– Farrah Gray ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ ถ้า ความกว้างล้อ กว้างขึ้น แต่ใ้ ยางเท่าเดิม -> ผมว่าไม่ได้ช่วยอะไรเรื่องเกาะถนนเลยครับ แต่ถ้าเพิ่มขนาดยางตามขนาดล้อ อันนี้เกาะขึ้นครับ แต่ก็กินน้ำมันมากขึ้นนิดนึง ผมเองแต่ก่อนใส่ 15" ยาง 205/60 ตอนนี้ 17" ยาง 215/45 (ยางOversizeขนาดใกล้เคียง225) ผล -> ออกตัวอืดกว่าเดิมครับ แต่เข้าโค้งเกาะกว่าเดิม และล้อไม่ค่อยตกไหล่ทางครับเพราะหน้ามันกว้างกว่าเดิมนิดนึง จากการใช้งานจริงครับ เดิมใส่แม็กติดรถขอบ 15 กว้าง 5. 5 นิ้ว ยาง 195/60 R15 เปลี่ยนเป็นแม็กขอบ 16 กว้าง 6. 5 นิ้ว ยาง 195/50 R16 ผลคือ รถออกตัวอืดขึ้น การเพิ่มความเร็วรถทำได้ช้าลง ถ้าจะให้ทันใจเท่าเดิมต้องเหยียบมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองจึงน่าจะสูงขึ้นด้วย จากน้ำหนักของล้อที่มากขึ้นประมาณ 1. 5 กก. ต่อวง แต่การขับขี่ควบคุมรถรู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ บันทึกการเข้า
6V '14 Mitsubishi Triton Plus 2. 4Benzene 2Dr MT '12 Honda FIT(HK Spec) '13 กระด้างขึ้น รถเตี้ยลง กินน้ำมัน ล้อหน้ากว้างเพิ่มนิดหน่อยไม่ค่อยเห็นผล ลองนึกถึงรถแนวflush styleยางดึงๆ และจะเห็นภาพ แม็กเดิมศูนย์ 15x5. 5" หนักถึง 8. 4กก ส่วนแม็กแต่ง 15x7" หนักประมาณ 7โลหน่อย (แม็ก cast/forge หนัก 4-4. 5 โล) เพราะฉะนั้น เรื่องน้ำหนักผมว่าไม่ต่าง แต่ได้หน้ากว้างแม็กที่เพิ่ม การขับขี่ดีขึ้น มั่นคงขึ้นหน่อย (หากอยากได้แบบชัดเจนต้องเปลี่ยนโช้คและสปริงโหลดครับ) ผมเคยใช้แม็กซ์เดิมโรงงาน 15x5. 5" กับยาง 195/55/15 แล้วเปลี่ยนแม็ก 15x7" หนัก 4. 2โล ขับกระชับดีขึ้น(คงเพราะโช้คและสปริงโหลดด้วย) แต่ตอนใช้กับช่วงล่างเดิม มันก็ยังย้วยอยู่ดีครับ แต่การขับขี่ดีกว่าเดิมๆนิดหน่อย บังคับล้อได้ง่ายขึ้น ประมาณนี้ครับ จะเลือกรถหรือเมีย....... รถสิคร๊าฟ ถ้าแบบชัดๆจะเป็นออฟครับ ยิ่งน้อยยิ่งยื่นยิ่งเกาะยิ่งโดนเรียก อิๆ มีผลครับ แก้มยางจะเตี้ยลงเพราะยางจะถูกถ่างให้กว้างขึ้นตามขนาดของแม็ก ส่งผลให้กระด้างขึ้นและการสึกหรอของหน้ายางอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมครับ กรณีนี้ยาง 195/55 15 recommended rim width 5. 5-7 ตอนนี้น่าจะรู้สึกย้วยๆนิดนึงเวลาโยกซ้าย-ขวา เปลี่ยนเป็น 7 ความรู้สึกย้วยๆจะน้อยลง... ซึ่งแลกมาด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่มาก (ไม่น่าเกิน 20กก.
วิธีวัดขนาดล้อแม็ค - YouTube