5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุน 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกินการคาดการณ์จากการประเมินของ Refinitiv โดยหลังจากการรายงานผลประกอบการที่เกินคาดนี้ทำให้มูลค่าหุ้นของ Nike ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปถึง 12% การที่ผู้คนเริ่มออกมาใช้จ่ายมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เป็นผลให้ยอดขายในอเมริกาเหนือที่นับเป็นตลาดแห่งใหญ่ที่สุดของ Nike เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอยู่ที่ 5. 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดขายในภูมิภาคต่างๆ เติบโตขึ้นกว่า 29% เมื่อเทียบกับปี 2019 แม้แต่ในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เองที่ผู้บริโภคพยายามคว่ำบาตรแบรนด์สินค้าฝั่งตะวันตก รวมถึง Nike ที่เคยออกมาแสดงความกังวลต่อการข้อกล่าวหากรณีการใช้แรงงานในเมืองซินเจียง อย่างไรก็ดี แดนมังกรยังถือว่าเป็นตลาดที่โตเร็วที่สุดของ Nike เห็นได้จากยอดขายไตรมาสล่าสุดซึ่งอยู่ที่ 1. 93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่งขึ้น 17% ในช่วงของโรคระบาด ยอดขายออนไลน์เติบโตกว่า 41% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นสูงถึง 147% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ทั้งนี้ บริษัทกล่าวว่า รูปแบบธุรกิจแบบประเภทสมาชิกมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการทำตลาดออนไลน์ ปัจจุบัน Nike มีจำนวนลูกค้าสมาชิกทั้งหมดกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ในปีงบประมาณ 2022 Nike มีการประเมินรายได้ที่มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ประมาณ 4.
31 พันล้านดอลลาร์ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีรายได้ที่ 1. 01 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือลดลงมากถึง -38% โดยมียอดขาดทุนสุทธิ 790 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน การที่ผู้คนหลีกเลี่ยงไปออกกำลังกายที่ยิม ก็มีส่วนหนุนให้ยอดขายออนไลน์ของ Nike เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะคนต้องการ " ออกกำลังกายที่บ้าน " มากขึ้น ทำให้ยอดขายดิจิทัลเติบโต 82% มากกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ Nike ทำยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น 75% คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด ที่ Nike เคยวางเป้าหมายว่าจะทำให้ได้ในปี 2023 "ฟาสต์เเฟชั่น" พลิกเกมบุก "ออนไลน์" ดันยอดขาย Zara พุ่ง กลับมามีกำไรในไตรมาส 2 Nike มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 11% เป็น 1. 52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.
จากที่ไตรมาสก่อนหน้าขาดทุนสุทธิ 790 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เมื่อเดือน ก. ที่ผ่านมา ไนกี้ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต. นี้ จะปรับลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเน้นการลงทุนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น รวมถึงจะยกเลิกสัญญากับผู้ค้าปลีกหลัก 9 ราย และดีลกับห้างสรรพสินค้า Dillard's และ Zappos ของ นอกจากนี้เมื่อเดือน ก. ที่ผ่านมา ไนกี้ได้ะงับแผนการที่จะเปิดโรงงานผลิตรองเท้าในรัฐแอริโซนาด้วย ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat
Advertisement แสดงความคิดเห็น...
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า "ไนกี้" (Nike) แบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ระดับโลก หลังประสบภาวะขาดทุนไตรมาสที่ผ่านมา ได้แจ้งผลประกอบการช่วงเดือน มิ. ย. -ส. ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ไนกี้ เจ้าของผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2020 ว่า มีรายได้อยู่ที่ 6. 31 พันล้านดอลลาร์ โดยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1. 01 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือลดลงมากถึง 38% หลังยอดขายทรุดจากการปิดสาขาทั่วโลก และ รายได้จากการค้าในช่องทางออนไลน์ไม่เพียงพอชดเชยยอดขายที่หายไป ไนกี้ ระบุว่า จากยอดขายที่ลดลงดังกล่าวได้ทำให้บริษัทขาดทุน 790 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยยอดขายในอเมริกาเหนือลดลงไปมากถึง 46% ขณะที่ยอดขายในจีนลดลงเพียง 3% เนื่องจากสาขาในจีนได้กลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน มี. ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นมากถึง 75% หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมดในไตรมาสที่ 2 โดยไนกี้เผยว่าทางบริษัทได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ได้ 50% ในอนาคตอันใกล้นี้ ในส่วนของยอดขายรองเท้าไนกี้ลดลงไปมากถึง 35% ขณะที่เครื่องแต่งกายลดลง 42% และยอดขายอุปกรณ์กีฬาลดลงไปมากถึง 53% และยอดการจัดส่งสินค้าลดลง 50% ซึ่งเป็นผลมาจากผู้คนเล่นกีฬาน้อยลง เนื่องจากต้องอาศัยอยู่ในบ้านจากมาตรการล็อกดาวน์ ไนกี้ เผยว่า ในขณะนี้ร้านสาขาของไนกี้ทั่วโลกมากกว่า 90% ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว ขณะที่สาขาในสหรัฐฯมากกว่า 85% จะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนนี้
19 มี. ค. 2564 20:11 น. นักลงทุนผิดหวัง ยอดขายของ ไนกี้ ไม่ตรงตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ ประสบปัญหาการขนส่งสินค้าจากโรงงานในเอเชียไปยังอเมริกาเหนือ สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงาน ผลประกอบการของบริษัท ไนกี้ บริษัทผู้ผลิตรองเท้ากีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ถึงเป้าที่คาดเอาไว้ เนื่องจากประสบปัญหาการขนส่ง ที่ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนผิดหวังกับการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ โดยหุ้นของบริษัทได้ตกลงราว 3 เปอร์เซ็นต์ ข่าวแนะนำ ถึงแม้ว่าบริษัทจะรายงานรายได้จากไตรมาสที่สามขยับขึ้นจาก 847 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1. 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมียอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก 10. 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 10. 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ตัวเลขดังกล่าวนั้นต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักลงทุน ซึ่งรายได้ที่ไม่ตรงตามเป้าส่วนหนึ่งเกิดจากการขนส่งที่ประสบปัญหาการขนส่งสินค้าจากโรงงานในเอเชียไปยังอเมริกาเหนือเนื่องจากมีเที่ยวบินการขนส่งที่จำกัดในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19. อ่านเพิ่มเติม...
26 มิ. ย. 2020 ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Nike (ไตรมาสที่ 4) ระหว่างเดือน มี. ค. - พ.
สรุปสัดส่วนรายได้ NIKE บริษัทขายรองเท้า-อุปกรณ์กีฬา มูลค่า 5 ล้านล้าน!! ข้อมูลน่าสนใจ: 1. แรกเริ่มเดิมที บริษัทไม่ได้ใช้ชื่อ Nike แต่ใช้ชื่อว่า Blue Ribbon Sports โดยเกิดขึ้นหลังจาก Phil Knight ผู้ก่อตั้งไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วถูกใจรองเท้าวิ่ง Onitsuka Tiger จึงตั้งบริษัทนำเข้ามาขายในสหรัฐฯ 2. ภายหลังบริษัทมีประเด็นขัดแย้งกับผู้ผลิตรองเท้าญี่ปุ่น เพราะทางฝั่งญี่ปุ่น จะขายในญี่ปุ่นก่อนเท่านั้น ค่อยผลิตส่งออก แถมมีแนวโน้มที่จะเข้ามาทำตลาดสหรัฐฯ เองในอนาคต ส่วนทางบริษัทอเมริกัน ก็แอบดัดแปลงรองเท้าแบบลับๆ แถมยังวางแผนจะผลิตรองเท้าขายเองอยู่ก่อนแล้ว จนภายหลังแตกหักกันในที่สุด 3. ภายหลังชื่อแบรนด์ Nike ถูกตั้งตามเทพีแห่งชัยชนะของกรีก ส่วนโลโก้ Swoosh นั้น ออกแบบโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ผู้ก่อตั้งเคยเรียน ด้วยค่าจ้างประมาณ 1, 000 บาท Nike ใช้โลโก้นี้มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่ม จนภายหลังบริษัทใหญ่โตระดับโลก คนออกแบบโลโก้ก็ได้หุ้นที่มีมูลค่าอย่างน้อย 20 ล้านบาท 4. Nike เป็นแบรนด์กีฬาแรกๆ ที่ทำตลาดด้วยการนำรองเท้าไปผูกติดกับนักกีฬาระดับโลก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่โอลิมปิกในปี 1972 ภายหลังพวกเขาเลยเล็งไปยังนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรง ที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์และช่วยขายรองเท้าพวกเขาได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น.. ไม่ว่าจะเป็น Michael Jordan ในปี 1984 ตอนเพิ่งเล่นบาสเกตบอลอาชีพปีแรก Tiger Woods ในปี 1996 หรือกระทั่ง Lebron James ในปี 2003 ตั้งแต่ยังเป็นนักกีฬามัธยมปลาย 5.
ค. เป็นต้นไป โดยจะหันไปเน้นการลงทุนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น รวมถึงจะยกเลิกสัญญากับผู้ค้าปลีกหลัก 9 ราย และดีลกับห้างสรรพสินค้า Dillard's และ Zappos ของ พร้อมกับการระงับเเผนที่จะเปิดโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ด้วย 'Nike' เตรียม 'ปลดพนักงาน' หลังขาดทุนถึง 790 ล้านดอลลาร์ 'Nike' ต้องจ่ายค่าชดเชยกว่า 250 ล้านเหรียญฯ หลัง 'ปลดพนักงาน' เพื่อลุยออนไลน์ ที่มา: Reuters ( 1)( 2), Business Insider