๑. วิธีฝึกอ่าน(สอน)การสะกดคำ หลักการ การแจกลูกเป็นกระบวนการฝึกภาษา เป็นพื้นฐานของการใช้ภาษาที่ดี มีประสิทธิภาพชั้นสูงต่อไป หากครูไม่สอนการแจกลูกสะกดคำในระยะเริ่มแรก นักเรียนจะขาดหลักเกณฑ์การประสมคำ ทำให้เมื่ออ่านหนังสือมากขึ้นจะสับสน จนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือผิดตลอดไป การแจกลูก มี ๒ ชนิด คือ การแจกลูกตามมาตราตัวสะกดต่างๆ และการเทียบเสียง ๑. ๑ วิธีการ/ขั้นตอนการฝึกอ่าน(สอน) แจกลูกสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ๑. เริ่มต้นจากการจำและออกเสียงพยัญชนะ สระให้ได้ ๒. ต่อจากนั้น ฝึกเริ่มแจกลูกในมาตราแม่ ก กา (ไม่มีเสียงสะกด) จะใช้สะกดคำไปทีละคำไล่ไปตามลำดับของสระ(อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ) เช่น - กะ สะกดว่า กอ – อะ – กะ - กา สะกดว่า กอ – อา – กา ๓. แล้วจึงอ่านโดยไม่สะกดคำ เช่น กะ กา กิ กี กุ กู เก โก เป็นต้น ๔. เมื่ออ่านได้จึงอ่านตามตัวสะกดมาตราอื่นๆต่อไป ๑. ๒ วิธีการ/ขั้นตอนการฝึกอ่าน(สอน) แจกลูกสะกดคำ แบบเทียบเสียง ๑. เมื่อนักเรียนอ่านคำ จำคำได้แล้ว ให้ครูนำรูปคำมาแจกลูกโดยการเปลี่ยนพยัญชนะต้น หรือพยัญชนะท้าย เช่น เมื่อจำคำว่า บ้านได้แล้ว ก็ให้ลองหาพยัญชนะอื่นมาเปลี่ยน "บ" บ้าง เช่น ก้าน ป้าน ร้าน ล้าน ค้าน เป็นต้น ๒.
มาตราตัวสะกดตรงแม่ ใช้ตัวสะกดตัวเดียว มี 4 มาตรา ดังนี้ แม่กง พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ง เช่น กางเกง กระโปรง รองเท้า หนังสือ โรงเรียน ยางลบ เตียง พวงกุญแจ กล่องดินสอ ห่วงยาง ฯลฯ แม่กม พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ม เช่น ร่ม ส้อม พัดลม กระดุม แชมพู โฟมล้างหน้า สนามกีฬา เข็มกลัด โคมไฟ ไอศกรีม ฯลฯ แม่เกย พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ย เช่น สร้อยคอ กระเป๋าสะพาย ทางม้าลาย น้อยหน่า พลอย นักมวย รอยเท้า ไฟฉาย ถ้วยกาแฟ ป้ายจราจร แม่เกอว พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดในมาตรานี้ คือ ว เช่น คอมพิวเตอร์ แก้วน้ำ มะนาว ไข่เจียว ก๋วยเตี๋ยว ทิวทัศน์ มะพร้าว ต้นข้าว ดวงดาว บ่าวสาว นิ้ว ฯลฯ 2.
44 / 86. 80) 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การเขียนสะกดคำมาตราตัวสะกดและคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา หลังการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ. 0 01 3) นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การเขียนสะกดคำมาตราตัวสะกดและคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย() เท่ากับ 4. 72 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S. D. ) เท่ากับ 0. 51 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับ ค่าเฉลี่ย () คือ ข้อ 1 คำแนะนำการใช้ สื่อความหมายได้ชัดเจน, ข้อ2 เนื้อหา ลำดับขั้นตอนได้ชัดเจน เข้าใจง่าย, ข้อ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สนุกสนาน น่าสนใจ, ข้อ 4เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ, ข้อ 7 แบบฝึกเสริมทักษะช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้น, ข้อ 8 ช่วยให้ทักษะการอ่านและเขียนดียิ่งขึ้น, ข้อ 9 สะดวกในการเรียน ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน, ข้อ 5 ขนาดและแบบตัวอักษรชัดเจน อ่านง่าย และข้อ10 นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ตามลำดับ(ค่าเฉลี่ย 4.
๑ ดูรูปคำและอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ๓. ๒ จำรูปคำและรู้ความหมายของคำ ๓. ๓ รู้หลักการสะกดคำ เช่น แม่ กง ใช้ ง สะกด แม่ กน ใช้ น ร ล ฬ ญ ณ แม่ กบ ใช้ บ ภ พ ป ฟ คำที่สะกดไม่ตรงไม่ตรงตามมาตราจะไม่สะกดคำ แต่ใช้หลักการสังเกตรูปคำและรู้หลักการ สะกดคำ เช่น คำว่า เหตุ ออกเสียงสะกดในแม่ กด ๔. วิธีการสะกดคำอักษรควบ มีวิธีการสะกดคำ ๒ วิธี คือ ๔. ๑ การสะกดคำเพื่ออ่าน จะมุ่งที่เสียงของคำด้วยการอ่านอักษรควบก่อนแล้วจึงสะกดคำ เช่น กราบ ออกเสียง กรฺอ-อา-บอ-กราบ ครอง ออกเสียง ครฺอ-ออ-งอ-ครอง ๔. ๒ การสะกดคำแบบเรียงพยัญชนะต้น วิธีนี้ใช้ในการสะกดคำเพื่อเขียน เช่น กรอง ออกเสียง กอ-รอ-ออ-งอ-กรอง ปลาย ออกเสียง ปอ-ลอ-อา-ยอ-ปลาย ๕. วิธีการสะกดคำอักษรนำ มีวิธีการสะกดคำดังนี้ ๕. ๑ ห นำ ย ร ล ว ให้ออกเสียงพยัญชนะนำก่อน เช่น หน ออกเสียง หนอ หย ออกเสียง หยอ เป็นต้น แล้วจึงสะกดคำ เช่น หยา สะกดว่า หยอ-อา-หยา หนู สะกดว่า หนอ-อู-หนู ให้เห็นว่าอักษรตัวแรก มีอิทธิพลต่ออักษรตัวที่สอง ส่วนการสะกดคำเพื่อมุ่งเขียนสะกดคำให้ถูกต้องอาจสะกดแบบเรียงพยัญชนะ เช่น หนู สะกดว่า หอ-นอ-อู-หนู ๕. ๒ อ นำ ย ให้ออกเสียง อย เป็นเสียง ย แล้วสะกดคำ เช่น อย่า สะกดว่า ยอ-อา-ยา- ยา-เอก-อย่า (ออกเสียง อย่า เพราะอิทธิพลของเสียง อ ที่เป็นอักษรนำ) หรือ ออ-ยอ-อา-ยา-ไม้เอก-อย่า หรือจำรูปคำทั้ง ๔ คำ ได้แก่ อย่า อยู่ อย่าง อยาก ๕.
การแจกลูกสะกดคำแบบนี้ ครูต้องฝึก ดังนี้ ๒. ๑ อ่านสระเสียงยาวก่อนสระเสียงสั้น ๒. ๒ นำคำที่มีความหมายมาฝึกเท่านั้น ๒. ๓ เปลี่ยนเฉพาะพยัญชนะต้นหรือท้ายเท่านั้น ๒. ๔ นำคำที่อ่านแล้วมาจัดทำเป็นแผนภูมิการอ่าน ให้เด็ก เห็นชัดเจนด้วย เทคนิคการฝึก(สอน)อ่านสะกดคำ ๑. ควรฝึกอ่านแจกลูกให้คล่องปาก ทั้งแบบจากหนังสือเรียน หรือที่ครูเขียนบนกระดาน หรือแบบเห็นคำจากบัตรคำ หรือแบบปากเปล่า (ไม่เห็นคำ) ๒. การแจกลูกสะกดคำ ต้องเป็นการออกเสียง มิใช่ฝึกการแยกตัวพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ลงในตาราง หรือช่องว่าง เพราะนั่นเป็นเพียงการจำแนกตัวอักษรที่เป็นส่วนประกอบของคำ เคล็ดลับการฝึก(สอน) สะกดคำ ๑. การสอนอ่านสะกดคำ จะต้องให้นักเรียนสังเกตรูปคำพร้อมๆกับการอ่าน ๒. ครูจะต้องให้อ่านสะกดคำ แล้วเขียนคำพร้อมๆกัน ๓. นำคำที่มีความหมายมาฝึกเท่านั้น ๔. เมื่อสะกดคำจนจำคำได้แล้ว ไม่ควรใช้วิธีการสะกดคำคำนั้นๆอีก ๕. การสอนสะกดคำเป็นแค่เครื่องมือในการสอนอ่านคำใหม่ ถ้ายังสอนแบบสะกดคำอีก จะทำให้นักเรียนอ่านจับใจความไม่ได้ และอ่านได้ช้า ๖. วิธีการสอนการสะกดคำที่ถูกต้อง ถ้าสอนสะกดคำเพื่ออ่าน ต้องฝึกสะกดคำตามเสียง, ถ้าสอนสะกดคำเพื่อเขียน ต้องฝึกสะกดคำตามรูป (ครูส่วนมากมักสอนให้สะกดคำตามรูปไม่ว่าทั้งอ่านและเขียน จึงทำให้นักเรียนอ่านหนังสือไม่ถูกเป็นจำนวนมาก) ๗.
๓ การสะกดคำที่อักษรสูงนำอักษรต่อเดี่ยว หรืออักษรกลางนำอักษรต่ำเดี่ยว เช่น สง_ สน_ สม_ ผล_ กล_ ถง_ ตล_ เป็นต้น ให้ออกเสียงนำก่อน เช่น สน ออกเสียง สะหนอ สม ออกเสียง สะหมอ แล้วจึงสะกดคำเพื่อออกเสียงให้ถูกต้อง เช่น เสมอ สะกดว่า สะหมอ-เออ-สะ-เหมอ สนอง สะกดว่า สะหนอ-ออ-งอ-สะหนอง หรือจะสะกดคำแบบเรียงตัวพยัญชนะเพื่อมุ่งเขียนคำให้ถูกต้อง เช่น เสมอ สะกดว่า สอ-มอ-เออ-สะเหมอ สนอง สะกดว่า สอ-นอ-ออ-งอ-สะหนอง ๖. วิธีการสะกดคำที่สระเปลี่ยนรูปและลดรูป สระโอะ มีตัวสะกด จะลดรูป ลด สะกดว่า ลอ-โอะ-ดอ-ลด สระอะ มีตัวสะกด จะเปลี่ยนรูปเป็นไม้หันอากาศ วัน สะกดว่า วอ-อะ-นอ-วัน สระเอะ มีตัวสะกด จะเปลี่ยนรูปโดยใช้ไม้ไต่คู้ เป็ด สะกดว่า ปอ-เอะ-ดอ-เป็ด สระเออ มีตัวสะกด จะเปลี่ยนรูป เดิน สะกดว่า ดอ-เออ-นอ-เดิน สระแอะ มีตัวสะกด จะเปลี่ยนรูป แข็ง สะกดว่า ขอ-แอะ-งอ-แข็ง สระอัว มีตัวสะกด จะเปลี่ยนรูป ลวด สะกดว่า ลอ-อัว-ดอ-ลวด ๗. วิธีการสะกดคำที่มีตัวการันต์เป็นคำมาจากภาษาอื่น คำที่มีจากภาษาอื่น เช่น ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤตจะมีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด การสะกดคำที่มีตัวการันต์จะให้อ่านเป็นคำ แล้วสังเกตรูปคำและรู้กฎเกณฑ์ตามหลักภาษาว่าคำที่มีตัวการันต์ พยัญชนะการันต์จะไม่ออกเสียง ความรู้เรื่อง การสอนอ่านแบบแจกลูกสะกดคำตามหลักภาษา การแจกลูก หมายถึง การเทียบเสียง เริ่มต้นจากการสอนให้จำและออกเสียงคำ แล้วนำรูปคำซึ่งเปรียบเสมือนแม่มากระจายหรือแจกลูก โดยการเปลี่ยนสระ หรือเปลี่ยนพยัญชนะต้น หรือเปลี่ยนพยัญชนะท้าย (ตัวสะกด) มีวิธีการดังนี้ ๑.
การสะกดคำจะทำได้เฉพาะคำที่เป็นคำไทยแท้ และมีตัวสะกดตรงตามรูปคำเท่านั้น................................. ๑. ๓ วิธีฝึก(สอน)สะกดคำตามรูปคำ และเสียง - วิธีฝึกสะกดคำตาม "รูปคำ" - กา สะกดว่า กอ – อา - กา - คาง สะกดว่า คอ – อา – งอ - คาง - วิธีฝึกสะกดคำ "ตามเสียง" โดยสะกดแม่ ก กา ก่อน แล้วจึงสะกดตามมาตราอื่นๆ - คาง สะกดว่า คอ – อา – คา – คา – งอ - คาง - ค้าง สะกดว่า คอ – อา – คา – คา – งอ - คาง - คาง – โท – ค้าง (แต่จะเห็นชัดเจน ตอนฝึกสะกดคำตามเสียงอักษรนำ หรืออักษรควบ) ขั้นตอนวิธีฝึกสะกดคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด ๑. ฝึกให้เห็นรูปคำ แล้วให้อ่านออกเสียงตามให้ถูกต้อง ๒. ฝึกจำรูปคำ และรู้ความหมายของคำ เพราะส่วนมากเป็นคำที่มาจากภาษาต่างประเทศตัวสะกดบางคำบางครั้งไม่ตรงตามมาตราที่ออกเสียง ๓. รู้หลักการสะกดคำ เช่น แต่ละเสียง สามารถใช้ตัวอะไรสะกดตามแม่มาตรานั้นๆได้บ้าง ๔. คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา จะไม่สอนฝึกสะกดคำ แต่ใช้หลักการสังเกตรูปคำ จำคำให้ได้ โดยอ่านและเขียนบ่อยๆ......................................
ควรนำหลักการทางจิตวิทยาหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการทำแบบฝึกมาใช้ประกอบในการ สร้างแบบฝึก จะทำให้แบบฝึกมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับนักเรียน ข้อเสนอแนะสำหรับงานวิจัยครั้งต่อไป ควรศึกษาหาผลสัมฤทธิ์การเรียนต่อวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนคำที่มี ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา แม่กด เป็นรายบุคคล 2. การวิจัยครั้งต่อไป เพื่อให้ผลการวิจัยเป็นสากล และเป็นตัวแทนของการเรียนรู้ ควรใช้กลุ่ม ตัวอย่างมากๆ จากหลายๆโรงเรียน และในท้องถิ่นต่างกัน 3. ควรมีการติดตามผล เพื่อนำมาปรับปรุงเอกสารประกอบการสอนให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น 4. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตาม มาตรา แม่กด จะสัมฤทธิ์ผลได้เมื่อผู้สอนเตรียมพร้อมในบทบาทของตน เช่น สื่อ ชุดแบบฝึกทักษะ ฯลฯ
68 เป็น 34. 97 ค่าผลต่างเท่ากับ 14. 29 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนลดลงจาก 6. 13 เป็น 3. 99 นั่นคือผลสัมฤทธิ์หลังจากใช้แบบฝึกทักษะการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา สูงขึ้นกว่าก่อนการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา แม่กด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.